นักลงทุนแห่แจ้งจับโบรกเกอร์ทองชื่อดังรวมมูลค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

วันที่ 17 สิงหาคม ณ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความและประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ได้พากลุ่มผู้เสียหายจำนวน 7 คน เข้าพบ พ.ต.ท.หญิงบุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อร้านทองชื่อดัง ย่านดิโอลด์สยาม พลาซ่า หลังถูกหลอกให้นำเงินไปลงทุนเทรดทองคำ แต่ลงทุนแล้วกลับถูกระงับห้ามซื้อขายพร้อมกับถูกยึดเงินลงทุนไม่สามารถถอนคืนได้

ซึ่งทางโบรกเกอร์นั้นได้จดทะเบียนรับรองกับทาง กลต. อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจหลาย ๆ เหตุการณ์ส่งผลต่อราคาทองคำโดยตรงทำให้ตลาดทองคำมีความผันผวนที่แรงมาก นั่นอาจส่งผลกระทบต่อการเทรดทอง หรือแท้จริงแล้วทางโบรกเกอร์ตั้งใจโกงเงินของนักลงทุนจริง ๆ อย่างไรก็ตามต้องมารอดูกันต่อไปว่าสุดท้ายทางโบรกเกอร์ นั้นโกงจริงหรือเป็นความผิดพลาดของทางเว็บไซต์ตามที่ทางโบรกเกอร์แจ้งไว้ต่อนักลงทุน

ทางผู้เสียหายเล่าว่า เทรดทองกับร้านนี้มาประมาณ 2 ปี เพราะเห็นว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียง เจ้าของก็เป็นที่นับหน้าถือตาในวงการค้าขายทอง ส่วนเว็บไซต์มีรูปแบบการทำงาน คือให้ผู้ลงทุนเปิดพอร์ตซื้อขายทองกับร้าน ซึ่งทางร้านจะบังคับให้คอยเติมเงินในบัญชีโดยอ้างว่าเป็นค่าค้ำประกันหากไม่เติมเงินส่วนนี้จะถูกปิดพอร์ต ที่ผ่านมาไม่เคยพบความผิดปกติ จนช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตลาดทองคำมีความผันผวน ระบบซื้อขายบนเว็บขัดข้องไม่สามารถซื้อขายและเสียเงินประกันไป เมื่อสอบถามร้านก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าระบบมีปัญหาจะให้ช่างเทคนิคไปตรวจสอบ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ

ส่วนทางด้านนายรัชพลนั้นอยากให้กองปราบปรามตรวจสอบร้านทองดังกล่าว หลังโฆษณาชักชวนกลุ่มผู้เสียหายร่วมลงทุนเทรดทองในเว็บไซต์ โดยให้เปิดบัญชีคนละหลายแสนถึงหลักล้านบาท จนกระทั่งช่วงที่ราคาทองปรับขึ้น ผู้เสียหายได้พยายามกดซื้อขายทองบนเว็บไซต์เพื่อทำกำไร แต่ไม่สามารถซื้อขายได้ บางคนถูกหักเงินในบัญชีไปถึง 6 ล้านบาท โดยร้านอ้างว่าสาเหตุมาจากราคาทองที่ผันผวน

ถึงอย่างไรการตรวจสอบข้อมูลโบรกเกอร์ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน มิเช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น นักลงทุนควรตรวจสอบโบรกเกอร์ Forex ด้วยตัวของท่านเองก่อนการเทรดหรือลงทุนใดใด เนื่องจากถ้าเป็นโบรกเกอร์เถื่อนจะมีสิทธิ์โกงได้ง่ายได้